สมัยนี้ การรับประทานขนมหวานแบบธรรมดาๆ มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว! โรตีริมถนน? ร้านกาแฟแบบเบสิกๆ? ไอติม Swensen’s? น่าเบื่อเกินไปทั้งนั้น!
ใครที่ชอบกินขนมหวานและจิบเครื่องดื่มแบบเก๋ไก๋ในบรรยากาศแบบไม่ธรรมดา อาจชอบร้าน Mocking Tales (The Maze ทองหล่อ ซอย 4) ที่ให้เราสัมผัสบรรยากาศปราสาทคล้าย Sleeping Beauty และลิ้มรสของหวานที่ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากเทพนิยายชื่อดังมากมาย
ขอบอกว่า…ร้านนี้จัด theme อัศวินขี่ม้าขาวอย่างเต็มที่เลย! หน้าร้านก็มีชุดเกราะตั้งตระหง่านอยู่ พอไปถึงที่นั่งก็มีหมวกอัศวินตกแต่งโต๊ะ พนักงานเสิร์ฟก็เล่นบทเป็นอัศวินเหมือนกัน…ช่วยเหลือเราเต็มที่ พอสั่นกระดิ่งเรียกปั๊ปก็รีบโผล่มาทันที แบบพระเอกโคดๆ!
จุดเด่นของร้านอยู่ที่ดีไซน์จริงๆ เพราะร้านดูอบอุ่น สวยงาม มีไม้ลงไม้เลื้อยและแสงตะเกียงเต็มไปหมด ไม่แตกต่างกับปราสาทในเทพนิยายเลยจริงๆ คณะเรายังได้ที่นั่งเป็นส่วนตัวตรงชั้นลอยเล็กๆของร้านอีกด้วย
มาถึงเรื่องของหวานกันแล้ว! เราเริ่มด้วย Signature Dish ชื่อ Poisoned Apple เหมือนแอ๊ปเปิ้ลที่ Snow White กินแล้วก็เป็นลมล้มหมดสติไป ไอ้ Poisoned Apple อันนี้ไม่มีผลข้างเคียงถึงขนาดนั้น แต่เอฟเฟ็คและรูปโฉมก็ทำให้ผู้กินอึ้งและตื่นเต้นกันไม่น้อย
โปรดสังเกตไอติมที่ไหลเยิ้มและไอ้ควันฟุ้งๆที่เค้าใส่มาให้ด้วย ทำให้ดูเริ่ดมาก!
ต่อไปคือไอติมที่เสริฟมาในโคนแบบหรูหรา เค้ามีให้เลือกหลายรสชาติตามที่เห็นในเมนูนี้ ขอกระซิบแนะนำนิดนึงว่า…รส Dark Chocolate อร่อยใช้ได้เลย
หน้าตาไอติมก็เป็นแบบนี้…กำลังละลายเยิ้มเลย
ขนมหวานที่หน้าตาน่าเอ็นดูที่สุดในเมนู คือ Blood Moon Rabbit ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระต่ายน้อยในเรื่อง Alice in Wonderland มีไอติมโปะอยู่บนสโคน ราดด้วยซอสราสเบอรี่ และมีหูกระต่ายรสช็อกโกแลตให้กินเล่น
ขนมหวานจานสุดท้ายที่พวกเราสั่งกัน คือ Main Event อลังการงานสร้างเป็นที่สุด! ภูเขาไฟ Inferno Mountain นั่นเอง! ตัวภูเขาทำจากช็อกโกแลตแข็งและข้างในเป็นไอติมสามลูก เลือกรสได้ตามใจชอบ พนักงานเสิร์ฟจะทำการราดซอสราสเบอรี่ลงบนภูเขา ก่อนจะจุดไฟในหม้อเล็กๆสองใบ และควงไฟโชว์ซักนิดนึงให้ผู้กินตื่นเต้นเล่น (ไม่รู้ทำไมคนเราตื่นเต้นกันนักเมื่อเห็นอาหารกับไฟอยู่คู่กัน…!)
หลังจากคนเสิร์ฟควงไฟพอเป็นพิธีซักแปปนึง ก็จะเทเปลวเพลิงลงบนภูเขาไฟจนลุกพรึ่บ! ให้ช็อกโกแลตแตกนิดนึงและมีไอติมโผล่ออกมา
อยากจะบอกว่า…ไอ้ตอนจุดไฟนี่น่าตื่นเต้นเป็นที่สุด แต่ให้ทำใจว่า ไฟลุกอยู่ทั้งหมดแค่ประมาณ 1 นาทีเท่านั้น ลุกท่วมภูเขาแปปเดียวก็ดับแล้ว กะพริบตาครั้งเดียวก็พลาด! ถ้าใครอยากเห็นไฟกับอาหารคู่กันเยอะๆและนานๆ ขอแนะนำให้ไปใช้เตาบาบีคิวแทนดีกว่า
รสชาติของภูเขาไฟคือช็อกโกแลตกับไอติมล้วนๆ กินแบ่งกับเพื่อนๆได้อย่างสนุกสนานดี โดยเฉพาะบราวนี่ชิ้นเล็กๆและตัวภูเขาช็อกโกแลต
กินเสร็จแล้ว…ขอรับรองว่า ต้องรู้สึกอ้วนและอยากออกกำลังกายทันที! Snow White และ Sleeping Beauty ไม่มีปัญหาแบบนี้แน่นอน!
Final Verdict
รสชาติ ใช้ได้
ความหรูหราตื่นเต้น มากเอาการอยู่ ดีไซน์ของร้านและตรงจุดไฟช่วยได้มาก
ราคา พอกินเสร็จแล้ว นักศึกษาหรือพนักงานออฟฟิศเงินเดือนขั้นต้น…อาจต้องซื้อข้าวจากเซเว่นกินไปอีกหลายวัน
*ขอขอบคุณ…รูปภาพสวยๆจาก Grace และ Faith พร้อมทั้งความตื่นเต้นของคริสโตเฟอร์