หลายๆคนคงเห็น hashtag ทั้งสองอันนี้ trend อยู่ในโลกโซเชียลและเห็นเพจหลายอันโพสต์รูปกล่องสีดำ นี่เป็นการประท้วงต่อสถาณการณ์เหยียดสีผิวในประเทศอเมริกาและในประเทศอื่นๆทั่วโลก อเมริกามีประวัติการกดขี่ข่มเหงคนผิวดำมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การจับคนผิวดำมาเป็นทาสจนกระทั่งถึงปัจจุบันที่คนผิวดำยังโดนสังหารโดยตำรวจและคนผิวขาวอย่างไร้ความยุติธรรม
มันง่ายมากที่พวกเราในเมืองไทยจะเพิกเฉยต่อปัญหาเหล่านี้ เพราะหลายๆคนคิดว่าการเหยียดสีผิวเป็นแค่การ “เกลียดชัง” หรือ การ “จู่โจม” คนผิวดำเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว…มันลึกกว่านั้นมาก! อยากท้าทายให้สังคมไทยไม่ใช่แค่โพสต์ hashtag เท่านั้น แต่มองตัวเองในกระจกด้วย! อย่าโพสต์หรือเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นกล่องสีดำถ้าเรายังไม่พร้อมที่จะ “เรียนรู้” และ “เข้าใจ” ว่าตัวเราเองก็เป็นปัญหาเหมือนกัน
- ในประเทศไทย ลูกครึ่งผิวดำมักโดนดูถูกเหยียดหยามและกีดกัน แม้ว่าหลายคนจะเรียกตนเองว่าเป็นคนไทย แต่กลับไม่รู้สึกว่าเป็นที่ยอมรับในสังคม จนลูกครึ่งบางคนที่ผิวไม่คล้ำมากต้องโกหกว่าตนเองเป็นลูกครึ่งคนผิวขาว อยากให้ทุกคนรับฟังและตระหนักถึงประสบการณ์ของลูกครึ่งเหล่านี้ที่พบเจอกับการเหยียดผิวมาทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวคนเก่งของพิม หรือดาราอย่างมอริส เค
- คนเอเชียหลายคนมักเกี่ยวโยงคนผิวดำอย่างผิดๆ!! กับพฤติกรรม “อาชญากร” ไม่ว่าจะเป็นการปล้น การข่มขืม หรือการเป็น “นักเลง” บ่อยครั้งมากที่ได้ยินคนไทยบอกว่าคนผิวดำ “น่ากลัว” หรือคอยเตือนกันและกันให้คอย “ระแวง” คนผิวดำเวลาเดินทางไปเมืองนอก ทัศนคติแบบนี้นี่แหละ…ที่อยู่เบื้องหลังการที่ผู้ชายผิวดำหลายคนโดนตำรวจในประเทศอเมริกายิงเสียชีวิต
- การมองว่าผิวสีดำเป็นอะไรที่น่ารังเกียจหรือไม่สวยงาม ซึ่งความเชื่อแบบนี้มีมาตั้งแต่เก่าแก่แม้กระทั่งในตัวละครอย่าง “เงาะป่า” ที่คู่ควรกับนางรจนาก็ต่อเมื่อตัวเองได้กลายร่างเป็นเจ้าชาย “รูปงาม” แล้วเท่านั้น ในเอเชีย คนผิวสีคล้ำมักถูกมองว่า “น่าเกลียด” หรือ “ไม่สวยงาม” เท่าคนผิวขาว โดยเฉพาะผู้หญิง ในละครและหนังก็มีแต่นางเอกและพระเอกผิวขาวทั้งนั้น ทัศนคติแบบนี้เป็นเหตุให้ผู้หญิงผิวคล้ำหลายคนพยายามใช้ครีมเพื่อทำให้ผิวตัวเองขาวมากขึ้น (จำโฆษณาครีมทาหน้าอันนั้นของคริส หอวังได้มั้ย?) คำชมที่ตัวเองได้รับบ่อยมากจากคนไทยด้วยกันคือ “ขาวจัง” / “อยากขาวแบบนี้บ้างจัง” ฯลฯ ซึ่งทำให้เศร้ามาก เพราะผู้หญิงไทยไม่ควรจะต้องรู้สึก “ด้อย” หรือ “ไม่เป็นที่ต้องการ” เพราะสีผิวของตัวเอง
- การจงใจไม่เดทคนผิวดำ หรือ การมองว่าคนผิวดำไม่ใช่ “สเปค” ของเรา ให้ถามตัวเองดีๆว่าทำไมรู้สึกแบบนี้ และคำนิยามของ “ความสวยงาม” หรือ “ความหล่อ” แบบผิดๆเพี้ยนๆของเรามีต้นตอมาจากไหน?
- ขื่นชมวัฒนธรรมของคนผิวดำและเอามาลอกเลียนแบบ คนเอเชียหลายคนมักเห็นว่าคนผิวดำและวัฒนธรรมฮิปฮอปนั้น “เท่” หรือ “เจ๋ง” เลยพยายามจะลอกเลียนแบบ ไม่ว่าจะด้วยการทำผมหรือแต่งตัวแบบคนผิวดำ หรือแร้ปคำที่คนผิวสีอื่นไม่ควรจะแร้ป แต่สิ่งที่คนเอเชียเหล่านี้ไม่ตระหนัก คือ วัฒนธรรมของคนผิวดำมีรากฐานมาจากความยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญมาหลายชั่วอายุคน เพราะฉะนั้น…ก่อนที่เราจะลอกเลียนแบบพวกเขา เราต้องถามตัวเราเองก่อน ว่าเรามีสิทธิอะไร?
หัวข้อนี้ละเอียดอ่อนมาก และยังมีหลายประเด็นที่สังคมไทยยังไม่เคยพูดถึงกัน แต่อยากให้กำลังใจทุกคนให้เริ่มแบบง่ายๆก่อน นั่นคือ ฟัง อ่าน เรียนรู้ ตั้งคำถาม ท้าทายตัวเองให้มองโลกในมุมมองใหม่ๆ และ take action https://blacklivesmatters.carrd.co/
Follow me on Twitter: @PimsupaW